Home การศีกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม PDF พิมพ์ อีเมล

โครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ได้มีการประกาศใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2550 เป็นต้นมา ข้อความในมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้เริ่มส่งผลต่อการดำเนินงานของโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่อาจมีผลกระทบด้านต่างๆต่อชุมชน

โดยปัจจุบันประชาชนและชุมชนได้เพิ่มบทบาทในการปกป้องชุมชนของตนเองจากมลภาวะต่างๆ เพื่อดำรงคุณภาพชีวิตให้อยู่ในความปลอดภัยซึ่งสอดรับข้อความในมาตรา 67 วรรคสอง ที่ได้ระบุไว้ว่า“การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน รวมทั้งได้ให้องค์การอิสระ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพ ให้ความเห็นประกอบ ก่อนมีการดำเนินการดังกล่าว

การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม

กฟผ. ได้มอบหมายให้บริษัท เซ้าท์อีสท์เอเซียเทคโนโลยี จำกัด หรือ ซีเทค(Southeast Asia Technology Co. Ltd.—SEATEC) ดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 โดยรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในปี 2541 แต่โครงการฯ ได้ชะลอออกไป เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยลดลง สืบเนื่องจากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจเมื่อปี 2540

ต่อมาในปี 2547 กฟผ.ได้ให้บริษัทซีเทคฯ ดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานชี้แจงการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการฯขนาด 725 เมกะวัตต์ และรายงานฯ ได้รับความเห็นชอบเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 ปัจจุบันเนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้ามีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้โรงไฟฟ้ามีประสิทธิภาพในการผลิตสูงขึ้นและมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งขนาดกำลังผลิตที่เหมาะสม สุทธิประมาณ 800 เมกะวัตต์ กฟผ. จึงมีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการฯ อีกครั้ง โดยในครั้งนี้มีบริษัทซีเทคฯ ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินการศึกษา จัดทำรายงานชี้แจงการเปลี่ยนแปลงฯ ฉบับใหม่ และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548